วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554
มันคือแตงกวา
สองสามีภรรยาแต่งงานอยู่กินกันมานานหลายปีภรรยารู้สึกข้องใจที่ทุกครั้งที่มีเซกซ์ สามีจะปิด ไฟทุกดวงจนมืดตื้อ ดังนั้น ระหว่างกำลังมีเซ็กซ์กัน ครั้งหนึ่งเธอก็เปิดไฟขึ้น
ภรรยา: ต้องตกใจถามสามีว่านี่คุณใช้แตงกวามา 10 ปี เลยรึไง
สามี: ที่รัก ฟังผมอธิบายก่อน
ภรรยา: คุณมันไม่ได้เรื่อง!!! ไร้สมรรถภาพ!!!
สามี: หุบปากซะ!!! แล้วเธอจะอธิบายยังไงเรื่องลูก 2 คนของเรา!!!
วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เรื่องของไข่ไก่
สามี: ที่รัก...คุณเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียงทำไมครับ ?
ภรรยา: คือฉันขอสารภาพตามตรงค่ะ...คือช่วงที่คุณไม่อยู่ฉันเหงามากเหลือเกิน ฉันนอกใจคุณค่ะ ทุกครั้งที่ฉันนอกใจคุณ ฉันจะเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียง เพื่อเตือนความจำว่าฉันทำผิดต่อคุณไปกี่ครั้ง
สามีได้ฟังก็รู้สึกเห็นใจภรรยามาก เขาจากหล่อนไปตั้ง 2 ปีเต็ม เธอนอกใจ เขาแค่ 3 ครั้ง เธอคงเหงา จริงๆ ถึงได้ทำลงไป เขาไม่ติดใจเอาความอะไร แต่ก็อด ถามถึงเงิน 2 แสนบาทไม่ได้ สามี: แล้วเงินสดตั้ง 2 แสนบาทนี่ล่ะ คุณเอามาจากไหนที่รัก
ภรรยา: อ๋อ...เงินนั่น....ฉันก็เอาไข่ไปขายได้มาไงล่ะคะคุณ
วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554
กินถั่วของคุณยาย
หลับเหมือนเด็กทารก
ช่วงที่ตลาดหุ้นในอเมริการ้อนแรงมากขึ้นไปทำสถิตติใหม่หลายครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน
ที่ปรึกษาตอบ : “โอ๊ย..ผมนอนหลับเหมือนเด็กทารกเล้ย”
นักลงทุนถาม : อย่างประหลาดใจว่า “จริงอ่ะ ในสภาพตลาดหุ้นที่ผันผวนอย่างนี้ เนี่ยน่ะ”
ที่ปรึกษา : “จริงซี่..ผมหลับได้ 2 ช.ม. แล้วก็ตื่นมาร้องไห้อีก 2 ช.ม.สลับกันทั้งคืน”
นักลงทุน : ????
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ทางไปสวรรค์
ไอ้ดำเป็นชายโสดอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลความเจริญเป็นอย่างมาก เมื่อคืน
ไอ้ดำได้ฝันถึงปู่ของเขาที่เพิ่งเสียไปในฝันเห็นปู่แค่เพียงรางๆ แต่ได้ยินเสียงชัดเจนมาก
ปู่ของเขามาบอกเขาว่าหนาวมากอยากได้ผ้าห่มสักผืนจะได้หายหนาว แล้วก็หายวับไป
วันรุ่งขึ้นไอ้ดำได้คิดถึงความฝันรู้สึกสงสารปู่ของเขาอย่างมากเขาได้เตรียมผ้าห่ม
ไว้ 1 ผืนแต่เกิดปัญหาเสียก่อนปัญหาคือเขาลืมถามปู่ไปว่า จะส่งผ้าห่มให้ปู่ได้อย่าง
ไรปู่ถึงจะได้รับและได้หายหนาวเสียที คิดๆๆๆๆ แล้วเขาก็นึกได้ว่าปู่ของเขาเป็นคนดี
ตอนนี้น่าจะอยู่บนสวรรค์ คิดได้ดังนั้นเขาก็เข้าไปแต่งตัวและหยิบผ้าห่มออกจากบ้าน
เพื่อที่จะหาทางไปสวรรค์ตลอดทั้งวันเขาเจอใครที่เดินผ่านมา หรือเดินผ่านบ้านใคร
เขาก็จะถามถึงทางไปสวรรค์ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ไอ้ดำเดินมา
ตามทางอย่างคนสิ้นหวังนึกสงสารปู่จับใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้วเขาก็ได้หยุด
เดินทางมานั่ง อยู่หน้ากระท่อมหลังหนึ่งแล้วถอนหายใจอย่างคนปลงตกแต่แล้วเขา
ก็ได้ยินเสียงคุยกันดังออกมาจากในกระท่อมหลังนั้น
"พี่จ๋าทนไม่ไหวแล้ว พี่จะพาน้องไปสวรรค์แล้วน่ะ"
"เอาเลยจ๊ะพี่ น้องพร้อมแล้ว เราไปกันเลย"
ไอ้ดำได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งไปถีบประตูกระท่อมทันทีและเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า
"เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ฉันฝากผ้าห่มไปให้ปู่ฉันด้วย" สองผัวเมียอ้าปากค้างในขณะที่นายดำ
ได้บอกชื่อและนามสกุลปู่เสร็จสรรพและเอ่ยขอบคุณก่อนออกมาจากกระท่อม และพูดกับตัว
เองเบาๆว่า
"มิน่าล่ะปู่กูถึงหนาวก็คนไปสวรรค์เขาแก้ผ้ากันไปทั้งนั้น"
ไอ้ดำได้ฝันถึงปู่ของเขาที่เพิ่งเสียไปในฝันเห็นปู่แค่เพียงรางๆ แต่ได้ยินเสียงชัดเจนมาก
ปู่ของเขามาบอกเขาว่าหนาวมากอยากได้ผ้าห่มสักผืนจะได้หายหนาว แล้วก็หายวับไป
วันรุ่งขึ้นไอ้ดำได้คิดถึงความฝันรู้สึกสงสารปู่ของเขาอย่างมากเขาได้เตรียมผ้าห่ม
ไว้ 1 ผืนแต่เกิดปัญหาเสียก่อนปัญหาคือเขาลืมถามปู่ไปว่า จะส่งผ้าห่มให้ปู่ได้อย่าง
ไรปู่ถึงจะได้รับและได้หายหนาวเสียที คิดๆๆๆๆ แล้วเขาก็นึกได้ว่าปู่ของเขาเป็นคนดี
ตอนนี้น่าจะอยู่บนสวรรค์ คิดได้ดังนั้นเขาก็เข้าไปแต่งตัวและหยิบผ้าห่มออกจากบ้าน
เพื่อที่จะหาทางไปสวรรค์ตลอดทั้งวันเขาเจอใครที่เดินผ่านมา หรือเดินผ่านบ้านใคร
เขาก็จะถามถึงทางไปสวรรค์ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ไอ้ดำเดินมา
ตามทางอย่างคนสิ้นหวังนึกสงสารปู่จับใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้วเขาก็ได้หยุด
เดินทางมานั่ง อยู่หน้ากระท่อมหลังหนึ่งแล้วถอนหายใจอย่างคนปลงตกแต่แล้วเขา
ก็ได้ยินเสียงคุยกันดังออกมาจากในกระท่อมหลังนั้น
"พี่จ๋าทนไม่ไหวแล้ว พี่จะพาน้องไปสวรรค์แล้วน่ะ"
"เอาเลยจ๊ะพี่ น้องพร้อมแล้ว เราไปกันเลย"
ไอ้ดำได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งไปถีบประตูกระท่อมทันทีและเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า
"เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ฉันฝากผ้าห่มไปให้ปู่ฉันด้วย" สองผัวเมียอ้าปากค้างในขณะที่นายดำ
ได้บอกชื่อและนามสกุลปู่เสร็จสรรพและเอ่ยขอบคุณก่อนออกมาจากกระท่อม และพูดกับตัว
เองเบาๆว่า
"มิน่าล่ะปู่กูถึงหนาวก็คนไปสวรรค์เขาแก้ผ้ากันไปทั้งนั้น"
วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554
วันวานที่ยังหวานอยู่
ภรรยาก็พูดขึ้นมาว่า
ภรรยา : ยังจำได้ไหม?? เมื่อ 50 ปีก่อน เรานั่งกินอาหารเช้าด้วยกันแบบนี้
สามี : จำได้สิ...และเรานั่งกันที่ตรงนี้ด้วย”
สามีทำตาปรอย : “บางวันเรายังแก้ผ้ากินข้าวด้วยซ้ำ...เมื่อ 50 ปีก่อนน่ะ
ภรรยาหัวเราะคิกคัก : แหม...คุณก็...
สามี : เรากลับไปทำแบบเก่ากันอีกดีกว่าเนาะ
ทั้งคู่กลับเข้าห้อง แล้วกลับออกมาที่โต๊ะกินข้าวในชุดนุ่งลมห่มฟ้า
ภรรยาทำเสียงกระเส่า : รู้ไหมที่รัก...หัวนมของฉันร้อนผ่าวๆ เหมือนเมื่อ 50 ปีก่อนเลย
สามีทำหน้าเบื่อโลก : แน่ละสิ!!!...ก็ปลายข้างหนึ่งแช่อยู่ในถ้วยกาแฟ และอีกข้างอยู่ในถ้วยข้าวต้มนี่นา..
ธรรมะเฮฮา
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่โง่
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้ ถึงมีรักเเท้เเต่ก็ดูเเลไม่ได้
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ตาใส่เเจ่ม
เเต่ถ้าฟังบอดี้เเสลม มักจะโทษว่าความรักทำให้คนตาบอด
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เพ้อเจ้อ
เเต่ถ้าฟังพีชเมกเกอร์ จะละเมอถึงเเต่เรื่องบนเตียง
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ปากเราติดดิสเบรก
เเต่ถ้าฟังเบิร์ด-เสก ถึงอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจเราชอกช้ำ
เเต่ถ้าฟังไอน้ำ จะชอกช้ำเพราะรักคนมีเจ้าของ
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เหงาหงอย
เเต่ถ้าฟังเสนาหอย จะเเอบเหงาคนเดียว
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่งมงายในความเชื่อเเละศรัทธา
เเต่ถ้าฟังทาทา มักจะพูดว่า ไอ บีลีฟๆ
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันอย่างไม่ต้องนอนละเมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์ มักจะเจอรักแท้ในคืนหลอกลวง
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่เน่าเสีย
เเต่ถ้าฟังนัท มีเรีย มักจะโทษว่า รักไม่ช่วยอะไร
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันจนสิ้นชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน เเล้วจะบอกว่า ถ้าเขามาฉันจะไป
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราไม่คุยโม้
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้ จะถูกต่อว่าปากดีนะเรา
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรามีสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน
เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ เพียงเเค่วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล่
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเจอคนดีเสมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์ มักจะเจอผู้ร้ายคนใหม่
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเข้าใจกัน
เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ บอกได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่าเสียใจ
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรารักกันยิ่งกว่าชีวิน
เเต่ถ้าฟังดาเอนโดรฟิน จะเป็นได้เเค่เพื่อนสนิท
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจใสเเจ่ม
เเต่ถ้าฟังว่าน วงเเพลม จะตัดพ้อต่อว่า ไม่บอกให้รู้สักเรื่องได้ไหม
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เเรด
เเต่ถ้าฟังบิ๊กเเอส มักจะเล่นของสูง
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่หยิ่งยะโส
เเต่ถ้าฟังติ๊ก ชีโร่ จะโอหังว่า รักไม่ยอมเปลี่ยนเเปลง
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจเปล่งปลั่ง
เเต่ถ้าฟังอาหรั่งจะคุ้มคลั่งว่า ทำบ้า....ทำบ้าอะไร
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ดีที่ใจมิใช่เพียงเเค่หน้าตา
เเต่ถ้าฟังปนัดดา ก็จะรู้เพียงว่า ขอเป็นคนเลวที่รักเธอ
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่สั่นคลอน
เเต่ถ้าฟังสุนทราภรณ์ เเล้วเธอจะ รู้สึก!!
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เปลืองเเรง
เเต่ถ้าฟังพรศักดิ์ ส่องเเสง จะเปลืองเเรง เพราะมีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คใครโทรมา
* ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้สอบผ่านทุกๆ ปี
เเต่ถ้าฟังเเอน สุชาวดี มักจะติดร.วิชาลืม
วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ครูสาไม่ใส่ กกน
ครูสาวคนหนึ่งเธอชื่อสา สอนอยู่ในชนบท ทุกวันครูสาจะขับรถมอเตอร์มาโรงเรียนเป็นประจำทุกวันแต่มาวันนี้อยู่ดี ๆ ฝนก็ตกลงมา ทำให้กางเกงในเปียก ครูสาเลยต้องถอดกางเกงในออกเอาไปตาก วันนั้นทั้งวันครูสาเลยไม่ได้ใส่กางเกงในก็สอนนักเรียนตามปกติในชั้นเรียนที่ครูสาสอนมีนักเรียนชายทะลึ่งอยู่ 3 คน ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ ครูสาจึงเดินเข้าไปในห้องพักครูโดยยืนจัดของอยู่เด็ก 3 คนนั้นจึงมายืนอยู่ชั้นล่าง เงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน ตรงที่ครูสายืนอยู่พอดีด้วย สัญชาตญาณครูจึงก้มหน้ามองพื้นข้างล่างก็เห็นเด็ก 3 คนนั้นมองขึ้นมาดูใต้กระโปรงของครูสาอยู่จึง เรียกขึ้นมาด้วยความโมโหครูสาจึงนักเรียนขึ้นมาถาม
ครูสาถามคนแรก : เธอเห็นอะไรบ้าง
นักเรียนคนแรกตอบ : ผมเห็นน่องครูคับ " คนแรกกล่าว"
ครูสา : โอเคเธอพักการเรียน 1 อาทิตย์ ครูสาสั่ง
ครูสาถาม คนที่ 2 : เธอเห็นอะไรบ้าง
นักเรียนคนที่ 2 ตอบ : ผมเห็นขาอ่อนครูคับ
ครูสา : โอเคเธอพัก 1 เทอม...
ครูสาถามคนสุดท้าย : แล้วเธอล่ะเห็นไรบ้าง
นักเรียนคนที่ 3 ตอบ : หน้าเจื่อน ๆ แล้วบอกว่า
" ผมคงไม่ต้องเรียนแล้วล่ะคับ "
วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เรื่องของค้างคาว 3 ตัว
ค้างคาวสามตัวเป็นเพื่อนกัน อยู่ในถ่ำเล็กๆ แห่งหนึ่งเวลาออกหาอาหารพวกมันต้องผลัดกันไปเพราะถ้าออกไปพร้อมกันหมดกับมาจะไม่มีที่อยู่เนื่องจากค้างคาวตัวอื่นจะมาแย่งที่ จึงตกลงว่าผลัดกันออกไปหากินทีละตัวใช้เวลาไม่เกินตัวละ 3 ชั่วโมง พอถึงค่ำตัวแรกก็ออกไปหากินก่อนแต่มันใช้เวลาเกินที่กำหนดไปเกิบชั่วโมงก็ยังหาของกินไม่ได้เท่าไหร่เพราะดูจากปากแล้วไม่มี
เลือดติดที่ปากเลย แล้วตัวที่สองก็ออกหากินบ้างกว่าจะกับมันก็ใช้เวลาเกินกำหนดไว้ถึง 2 ชั่วโมงแต่มันก็หาของกินไม่ค่อยได้เหมือนกัน ค้างคาวตัวที่สามก็ต่อว่ามึงทำไมไปนานจังวะ กูรอตั้งนานหิวจนตาลายแล้ว พอพูดจบมันก็บินออกไปทันที่ด้วยความโมโห เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ค้าวคาวตัวที่ 3 ก็บินกลับมา แล้วมันก็เอามือเช็ดเลือดสดๆ ที่เลอะปาก ท่าทางเหมือนกินอะไรมาน่าจะอร่อยน่าดู ค้างคาวทั้ง 2 ตัวเห็นดังนั้นจึงถามขึ้นว่าเฮ้ยมึงไปหาเลือดสดๆ ใกล้ ๆ ได้จากที่ไหนวะ
ค้างคาวตัวที่ 1 :ถามมึงไปหากินยังไงวะถึงได้กินเร็วขนาดนี้แถมมีเลือดกินด้วย
ค้างคาวตัวที่ 3: ตอบว่าพวกมึงเห็นต้นไม้ใหญ่หน้าถ้ำไมวะ
ค้าวคาวตัวที่ 1: ตอบเห็นวะ
ค้างคาวตัาที่ 2: ตอบกูก็เห็น
ค้างคาวตัวที่ 3 : เออ...ส่วนกูมองไม่เห็นวะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)